ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวกระบี่ โต้ ทราย สก๊อต
ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวกระบี่ โต้ ทราย สก๊อต
Blog Article
ยันช่วยอนุรักษ์-ทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯมาตลอดหลังเกิดกระแสดรามาระหว่างผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวในพื้นที่ จ.กระบี่ กับ นายสิรณัฐ หรือ ทราย สก๊อต 123vip นักอนุรักษ์ชื่อดัง ทายาทสิงห์ ทำหน้าที่ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ กรณีผู้ประกอบการนำเที่ยว ว่าไม่ให้ความร่วมมือ ลักลอบทิ้งสมอเรือในจุดห้ามทิ้งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามปัญหาจากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวในกระบี่ ซึ่งเป็นต้นเหตุของดรามาที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่หาดอ่าวนาง จ.กระบี่ ต่างไม่พอใจกับการออกมาให้ข่าวของ “ทราย สก๊อต “โดยมองว่าโจมตีผู้ประกอบการ ว่าไม่รักษาธรรมชาติในทะเล ซึ่งที่ผ่านมา ก่อน” ทราย สก๊อต “จะเข้ามา ผู้ประกอบการยืนยันว่า ช่วยดูแลธรรมชาติมาโดยตลอด พร้อมนำคลิปที่คนขับเรือ และผู้ประกอบการ กำลังช่วย เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ติดตั้งทุ่นผูกเรือ บริเวณอ่าวบูหยา เกาะปอดะ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.68 ให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันว่ากลุ่มผู้ประกอบการ พยายามหาทางแก้ปัญหาเรื่องการจอดเรือโดยไม่ต้องทิ้งสมอเหมือนกันนายวิรัช อายุ 40 ปี และนายกมล อายุ 59 ปี คนขับเรือนำเที่ยวในทะเลกระบี่ เผยว่า พวกตนขับเรือนำเที่ยวมานาน ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการผูกเรือกับทุ่นในเขตห้ามทิ้งสมอ เพราะหากทิ้งสมอ ก็กลัวจะกระทบต่อแนวปะการัง หรือธรรมชาติใต้ท้องทะเล ผู้ประกอบการก็ช่วยกันรักษาธรรมชาติ ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย จน “ทราย” เริ่มเข้ามา ก็ไปไล่ถ่ายรูปหมายเลขเรือ และรูปเรือนำเที่ยว และบอกว่าตรงนี้จอดเรือ ตรงนั้นจอดเรือไม่ได้ แล้วก็ถ่ายคลิป ถ่ายรูปเรือไปโพสต์ลงโซเชียล ตำหนิต่อว่าผู้ประกอบการเรือตลอด
ซึ่งผู้ประกอบการมองว่า 123vip ควรจะพูดคุยตักเตือน หรือติดป้ายเตือนให้ชัดเจนว่าห้ามจอดเรือตรงไหนบ้าง และน่าจะมีการตักเตือนกันก่อนก็ได้ ไม่ใช่มาถ่ายรูปแล้วนำไปโพสต์ลงโซเชียล สร้างคอนเทนต์ โดยใช้คนเรือเป็นเหยื่อ พวกตนชาวบ้านขับเรือไม่มีโซเชียลในมือ เวลาพวกตนปฏิบัติตามคำเตือน คำสั่ง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไปลงบอกใครในโซเชียลได้พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยขัดต่อคำสั่งของกรมอุทยานฯ หรือคำเตือนของเจ้าหน้าที่ มีแต่จะช่วยกันอนุรักษ์ ไม่ว่าจะเป็นการดูแทรัพยากรธรรมชาติและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ชาวบ้านที่นี่ เกิดมากับทะเล อยู่กิน ทำงาน และใช้ชีวิตกับทะเล ไม่มีใครอยากทุบหม้อข้าวของตัวเองแน่นอนที่ผ่านมาพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวในจุดที่อุทยานฯ อนุญาตเท่านั้น และทำกันมานานแล้ว จนมาเกิดปัญหาเมื่อ “ทราย” เข้ามา พวกตนเข้าใจว่าเจตนาจะอนุรักษ์ ซึ่งช่วงแรกพวกตนยังชื่นชมในเรื่องของการอนุรักษ์ แต่ตัวของทรายกลับดูถูกเหยียดหยามคนขับเรือ คนเป็นไกด์ ว่าพูดภาษาไม่ได้บ้าง ไม่ช่วยกันอนุรักษ์บ้าง ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริงด้าน น.ส.ทิพย์ อายุ 32 ปี ไกด์นำเที่ยว และเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยว ใน จ.กระบี่ เปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการและไกด์ให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคำสั่ง กฎระเบียบของกรมอุทยานฯ มาโดยตลอด พร้อมกับ ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการช่วย เจ้าหน้าที่วางทุ่นผูกเรือบริเวณ จุดห้ามทิ้งสมอเรือ เพื่อจะได้ผูกเรือกับทุ่นแทนการทิ้งสมอเรือ จะได้ไม่กระทบต่อธรรมชาติใต้ท้องทะเล แต่ไม่เคยมีใครเห็นเวลาผู้ประกอบการช่วยกันอนุรักษ์ เพราะพวกตนไม่มีปากมีเสียง เวลาทำงานช่วย เจ้าหน้าที่ก็ทำกันเงียบๆ ไม่เคยมีใครรับรู้ เพราะพวกตนไม่ได้เน้นโพสต์ลงโซเชียล ผิดกับทรายที่ลงโซเชียลโจมตีพวกตนตลอด
แต่ฝั่งของ ทราย มีการเผยแพร่เรื่องราวผ่านโซเชียล 123vip อ้างว่าผู้ประกอบการตัดทุ่นผูกเรือบริเวณจุดจอดเรือบ้าง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เจ้าหน้าที่บ้าง ที่ผ่านมาพวกตนปฏิบัติตามคำสั่ง และมาตรการคำเตือนของ เจ้าหน้าที่มาโดยตลอด เพราะจะมีการประชุมทำความเข้าใจกันตลอด แต่เราไม่ได้เผยแพร่สื่อโซเชียล ที่จะไปประกาศหรือถ่ายภาพตอนที่เราทำตามกฎ และประเด็นที่ ทราย ไปพูดว่าทางไกด์พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และไม่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าไม่มีใครอยากให้นักท่องเที่ยวหรือลูกทัวร์ของตัวเองมาบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ที่ผ่านมาดูแลกันตลอด อยากให้สังคมเข้าใจผู้ประกอบการด้วย เพราะ ทราย มาลงพื้นที่แค่วันเดียว ถ่ายคลิปไปทยอยโพสต์ผ่านโซเชียลเพราะเอายอดไลก์ หากมีปัญหาจริง ทำไมไม่เอาปัญหาไปหาทางแก้ไข ทำไมต้องเอาไปด่าว่ากันด้วยไกด์และผู้ประกอบการ อยากถามว่า คลิปที่เผยแพร่ออกมา” ทราย “เป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ สามารถห้ามนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้หรือไม่ และมีอำนาจไล่นักท่องเที่ยวออกจากจุดดำน้ำหรือไม่ อยากฝากถามด้วย